บทความทั้งหมด

1,313 รายการ

รรท.ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ ที่ได้ช่วยชีวิตประชาชนด้วยเครื่องปั้มหัวใจเมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ สน.บางซื่อ ที่ได้ช่วยชีวิตประชาชนบนท้องถนนด้วยการใช้เครื่อง AED ที่สภากาชาดไทยได้ทำการติดตั้งให้  จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนขับรถตู้หมดสติคาพวงมาลัย บริเวณแยกกำแพงเพชร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ด.ต.ไกรศร พลตาล ผบ.หมู่.งานจราจร สน.บางซื่อ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยมีสัญญาณชีพเพียงเล็กน้อย ด.ต.ไกรศรฯ จึงได้ดำเนินการตามหลักการช่วยฟื้นคืนชีพ กล่าวคือ ได้ขอความช่วยเหลือด้วยการวิทยุแจ้งรถกู้ภัยให้มายังที่เกิดเหตุ และเริ่มทำการฟื้นคืนชีพโดยการนำเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ซึ่งติดตั้งโดยสภากาชาดไทยที่แยกกำแพงเพชร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มาทำการช่วยเหลือ และทำการ CPR ตามขั้นตอน จนชายคนดังกล่าวกลับมามีสัญญาณชีพ จึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ดังกล่าว เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีติดตั้งเครื่อง AED ในทุก สน. และบริเวณทางแยกจราจรที่มีการสัญจรหนาแน่นและมีประชากรจำนวนมาก พร้อมทั้งทำการฝึกอบรม CPR และใช้เครื่อง AED ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ซึ่งทางเจ้าหน้าตำรวจ สน.บางซื่อ โดย พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ ประสาน จนท.รพ.ตำรวจ มาฝึกอบรมการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจนี้ ที่อยู่ประจำที่สน.ฯ ให้ข้าราชการตำรวจ สน.บางซื่อ ทุกนายสามารถใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงต่อไป

สลด หนุ่มดับเพลิง ขี่รถจยย.เสียหลักล้ม ถูกรถเมล์ทับซ้ำเสียชีวิตเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมือง ได้รับแจ้งเหตุรถจยย. เสียหลักล้ม ก่อนจะถูกรถประจำทางทับซ้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนราชพฤกษ์ (ขาเข้า) ก่อนถึงวงเวียนพระราม 5 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รีบรุดตรวจสอบ       ที่เกิดเหตุในช่องคู่ขนาน บนสะพานข้ามคลองบางกอกน้อย บริเวณเลนซ้ายพบรถประจำทางสาย 127 ปิ่นเกล้า-ตลาดพูล หมายเลขทะเบียน 16-7801 กทม. ใกล้กันพบรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-ม่วง หมายเลขทะเบียน 1 ขฐ 9351 กทม. มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายปรีชา แผนสะท้าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บางขุนกอง สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา ใส่กางเกงขาสั้น สภาพศพบริเวณศีรษะมีร่องรอยถูกทับ เลือดไหลออกจำนวนมาก เสียชีวิตบนรถจยย.คันดังกล่าว       จากการสอบถาม น.ส.พรพุ้ย (ภรรยาผู้เสียชีวิต) ชาวกัมพูชา เล่าว่า ปกติสามีจะเลิกงานประมาณ 8 โมง หรือ 10 โมง แล้วแต่วันไหนงานเยอะ ตนคุยกับสามีล่าสุดหลังจากเลิกงานแล้วเขาไปเตะบอล บอกว่าจะกลับบ้านมากินข้าวให้ตนเตรียมกับข้าวไว้ ขอแวะไปที่ทำงานก่อน หลังจากนั้นตนนอนหลับไป ตื่นมาถึงรู้ว่าสามีเสียชีวิต ปกติสามีเป็นคนดี เอาการเอางาน อยู่กันมา 15 ปี ไม่คิดว่าจะจากไปเร็วแบบนี้      เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและจะตรวจ สอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

รรท.ผบ.ตร. รุดเยี่ยม น้องซาน่า ตร.หญิง เกิดอุบัติเหตุจากการฝึกสั่งเร่งตรวจสอบทุกขั้นตอน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เรื่องของหลักสูตรอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าน้องเริ่มสมัครเป็นตำรวจในหลักสูตรใด ระยะเวลาเท่าไร และล่าสุดฝึกหลักสูตรอะไร แต่ทราบเพียงว่าเป็นการฝึกกองร้อยน้ำหวาน โดยตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้อำนวยการฝึก  ส่วนระหว่างการฝึกในหลักสูตรมีแนวทางการฝึกอย่างไร เนื่องจากว่าเจ้าตัวมีการโพสต์ถึงหลักสูตรในการฝึกที่ถูกกระทำ (ก็คือเตะเข้าที่หัวจนสมองบวมเลือดออกในสมอง) ยืนยันว่าไม่ได้มีหลักสูตรเช่นนี้ และได้พูดคุยกับแม่ของตำรวจหญิงแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุจริงในระหว่างที่ฝึก จู่ ๆหัวไปโดนเท้าของเพื่อน ส่วนก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าน้องพยายาม บอกเล่าเรื่องราวให้สังคมรับทราบว่าถูกกระทำ แล้วถูกกีดกันจากผู้บังคับบัญชา ไม่ให้เผยแพร่เรื่องราว นั้น เรื่องดังกล่าวตนเองยังไม่ได้รับทราบ และจะต้องมีการสั่งตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นใดที่ผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดลักษณะไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา และอะไรที่ไม่ถูกต้องจากผู้บังคับบัญชา จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  ส่วน บช.น. มีกองบังคับการศูนย์ฝึกอบรม แต่ต้องมีการส่งไปฝึกที่อื่นในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าหลักปฏิบัติเหมาะสมหรือไม่ หากมีอะไรไม่เหมาะสมจะมีการแก้ไขในอนาคต ส่วนผู้บังคับบัญชาในการฝึกในห้วงเวลานั้น ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ 66 เพิ่งมาเกิดเรื่องในตอนนี้นั้น ไม่อยากตอกย้ำในความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยมีการสัญญากับน้องตำรวจหญิงว่า หลังจากการรักษาตัว ขอให้ไปรายงานตัว ด้วยตัวเองกับ ผบ.ตร. และตนจะรอวันนั้น  ส่วนอาการของน้องตำรวจหญิงเบื้องต้นทรงตัวดีสามารถสื่อสารได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในบางช่วง แต่เมื่อพูดถึงประเด็นให้ไปรายงานตัวตำรวจหญิงยิ้มรับ ซึ่งมั่นใจว่าจากการพูดคุยน้องยังคงอยากเป็นตำรวจอยู่ แต่ขณะนี้ รู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย แต่ก็ต้องประคับประคองกันไป ซึ่งตนทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจน้อง  ส่วนอาการซึมเศร้าเป็นก่อนหรือหลังการรับข้าราชการตำรวจ ผบ.ตร. ระบุว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ตนเองได้พูดคุยกับน้องว่าอยากให้สู้และกลับมาเข้มแข็งด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งยารักษาซึ่งตัวน้องได้สัญญากับตนเองว่าจะดูแลตัวเอง จะดูแลแม่และจะดูแลยาย  สุดท้ายอยากฝากสื่อมวลชนอย่านำข้อความภายในจดหมายไปเผยแพร่เพื่อตอกย้ำความรู้สึกของน้อง เพราะกังวลว่าความคิดน้องจะถอยหลังกลับ เพราะขณะนี้น้องกำลังใจกำลังดีขึ้นและกำลังเดินหน้าเพื่อรักษาตัวเอง

ผกก.สืบสวน สงขลา เข้าให้ปากคำคดีเว็บพนัน เอี่ยว BNK Master ผู้กำกับสืบสวนจังหวัดสงขลา เข้าให้ปากคำคดีเว็บพนันกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เชื่อมโยงเว็บพนัน BNK Master พร้อมเรียก พ.ต.ท.คริษฐ์  ลูกน้องคนสนิท พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับทราบข้อกล่าวหา หลังพบข้อมูลเงินเงินเว็บพนันเข้าบัญชีม้า พ.ต.ท.คริษฐ์ 15ล้านบาทวันนี้ (25 มี ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สน.เตาปูน พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เดินทางพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีเว็บพนันออนไลน์ ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนัน BNK Master ที่ก่อนหน้านี้มีการออกหมายจับตำรวจ 3 นาย และพลเรือน 1 คน พร้อมออกหมายเรียก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่มีหลักฐานว่าเข้าไปพัวพันกับคดีดังกล่าวด้วย สำหรับเว็บไซต์พนันออนไลน์ BNK Master ตำรวจสืบสวนพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบัญชีม้าที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ถืออยู่ประมาณ 15 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน. เตาปูน ช่วงสายวันนี้

ร้องสายไหมต้องรอด  ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายร่างกายถึงห้องพักผู้เสียหายร้องเพลงสายไหมต้องรอดถูกกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดียวกับที่รุมทำร้ายอาสาสมัครกูภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนพยายามบุกคอนโดพังประตูห้องพักกลางดึก หวังทำร้ายร่างกายซ้ำสอง พบแฟนสาวตัวเองเป็นคนชี้เป้า และตะโกนให้กลุ้มผู้ก่อเหตุบุกทำร้าย นายปฐวี อายุ 30 ปี พร้อมนางสาวเบ็ญจา สองแม่ลูก ขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ นายปฐวี เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะไปทำธุระกับแฟนสาว ภายในซอย รามอินทรา 117 เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีกลุ่มวัยรุ่น 2 คน ขับรถจักรยานมาหาเรื่องแล้วใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณศรีษะจนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งชาวบ้านในละแวกนั้นมาช่วยห้ามปราม ก่อนตัวเองจะขับรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยให้นำตัวส่งโรงพยาบาล ภายหลังออกจากโรงพยาบาลมานอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องพักของแม่ตัวเองภายในซอยเสรีไทย 32 กลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายได้ตามมาถึงห้องพัก ช่วงเวลา 3:00 น. จำนวน 4-5 คน  ซึ่งในจำนวนนี้มีแฟนสาวของตัวเองอยู่ด้วย พยายามพังประตูไม้เพื่อเข้ามาทำร้ายตัวเอง จนประตูได้รับความเสียหาย แต่ไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากมีประตูเหล็กอีกชั้นหนึ่งกั้นเอาไว้อยู่ ขณะกลุ่มผู้ก่อเหตุอีกจำนวนหนึ่ง ได้ลงมือทุบรถจักรยานต์ของตัวเองที่จอดอยู่ใต้คอนโดะพังเสียหายไปด้วย ส่วนสาเหตุเชื่อว่าแฟนสาวของตัวเองน่าจะเป็นคนชี้เป้า และตะโกนบอกให้กลุ่มวัยรุ่นคนดังกล่าวเข้ามาทำร้ายตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัญหาทะเลาะกับแฟนสาว แล้วแฟนสาวอาจจะเข้าใจว่าตัวเองพยายามเบิกลา  ด้านนางสาวเบญจา แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคืนวันนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งในวินาทีที่เกิดเหตุที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพยายามพังประตูเข้ามา ได้ตัดสินใจกับลูกชายว่าหากกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเข้ามาภายในห้องได้ จะกระโดดลงจากชั้น 4 เพื่อหนีเอาตัวรอด เพราะหากอยู่ก็อาจจะโดนทำร้ายจนถึงแก่ความตาย แต่ถ้ากระโดดลงไปอาจจะมีโอกาสรอดมากกว่า แต่เมื่อกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเห็นว่าตัวเองได้พยายามโทรแจ้งตำรวจจึงลดความพยายามและออกจากที่เกิดเหตุไป นอกจากนี้ภายหลังจากก่อเหตุแล้วได้ใช้เบอร์ของแฟนสาวของลูกชายตัวเองโทรมาข่มขู่ลูกว่าจะถึงชีวิต และแอบอ้างว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าของปั๊มน้ำมัน หากว่าทางผู้เสียหายแจ้งความก็มีเงินที่จะสู้คดี ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บได้ไปแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ส่วนในข้อหาบุกรุกเคหสถานในยามวิกาล ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม แต่พนักงานสอบสวนกับลงบันทึกประจำวันเอาไว้เท่านั้น สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ไปก่อเหตุทำร้ายอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้งได้รับบาดเจ็บเมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีเบื้องต้นแล้ว ซึ่งคาดว่าสาเหตุที่เรียกอาสาสมัครกู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ เป็นเหตุต่อเนื่องหลังจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุที่พยายามพังประตูเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในคดีนี้ ซึ่งนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายลงพื้นที่เพื่อไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมจะติดตามคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และได้ตั้งข้อสงสัยถึงการทำงานตำรวจนครบาลบึงกุ่มที่เข้าระงับเหตุล่าช้า และไม่ได้รับแจ้งความในคดีดังกล่าวด้วย  ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นผู้ก่อเหตุลงมือก่อเหตุ 2 พื้นที่ ทั้งพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ก่อน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะเข้าข่าย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นหรือไม่ ส่วนกรณีบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลทางครอบครัวผู้เสียหายจะต้องนำหลักฐานไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่มอีกครั้ง สำหรับคดีที่ทำร้ายอาสาสมัครกู้ภัยได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" ทำตัวส่งฝากข่าวศาลอาญามีนบุรี และศาลเยาวชนและครอบครัวกลางสาขามีนบุรี ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา

"สันธนะ"หอบหลักฐานแจ้งเอาผิด"ชาดา"ให้สัมภาษณ์ด้อยค่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี เอาผิด นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีที่นายชาดาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและมีการพาดพิง ใช้คำพูดด้อยค่า เหยียดยาม ทำให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยได้นำหลักฐานเป็นการถอดเทปจากคำให้สัมภาษณ์ที่มีเสียงของนายชาดาชัดเจนมายื่นให้พนักงานสอบสวน โดยเป็นการแจ้งความแยกสำนวนต่างกรรมต่างวาระรวมทั้งหมด 4 คดี รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบ่อนบางใหญ่ ที่ได้มาจากเจ้าของบ่อน เป็นข้อมูลเพิ่มเติม และเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของนายชาดาผิดจริยธรรมนักการเมือง หลังจากนี้จะเดินทางไปร้องต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายชาดา และรับรองว่ารัฐมนตรีภายใต้การกำกับดูแลของตัวเองไม่ชอบการพนันจริงหรือไม่ส่วนสาเหตุที่นำมายื่นที่ สน.ลุมพินี ไม่ไปยื่นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เพราะตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี แต่หากมีการตรวจสอบและพบว่าข้อมูลมีประโยชน์แล้วเรียกตนไปให้ข้อมูลก็ยินดีส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีรัฐมนตรีไปเล่นการพนันที่บ่อนแห่งนี้แล้วเสียพนันไป 15 ล้านบาท นายสันธนะบอกว่าไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้ แต่ที่รู้คือกล้องวงจรปิดในโซน VIP หายไป เพราะคนในบ่อนไหวตัวทัน นำเซิร์ฟเวอร์ออกไปก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ส่วนภาพวงจรปิดที่มีการเผยแพร่ออกไปเป็นเพียงภาพโซนด้านนอก คนละส่วนกับโซน VIP นายสันธนะยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าบ่อนแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2566 ช่วงเดียวกับที่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และมีการร้องเรียนช่วงเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่าช่วง 4 เดือน หลังเปิดบ่อน ฝ่ายปกครองจะไม่รู้ได้อย่างไร และเหตุใดต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน ถึงจะเข้าตรวจค้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากังวลหรือไม่ว่านายชาดาจะแจ้งความกลับ นายสันธนะยืนยันว่าไม่กลัวและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับนายชาดาที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจ อัยการ หรือศาล จะไม่ไป จ.อุทัยธานี แต่ถ้าต้องไปก็ต้องเตรียมตัวและเตรียมทีมงานให้พร้อม

ดส. เปิดสงครามล้างบาง ’ร้านขายนํ้าท่อม‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. เปิดสงครามล้างบางสิ่งมอมเมาเยาวชน ลุยกวาดล้าง ”ร้านขายนํ้าท่อม“ ทั่วกรุงฯ 10 จุด ได้ผู้ต้องหาและของกลางอื้อเมื่อวันที่ 24 มี.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ผลิตและจำหน่าย ”น้ำกระท่อม“ สิ่งมอมเมาเยาวชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีฯให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปราม กวดขัน การจำหน่ายน้ำกระท่อมต่อเยาวชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. จึงได้มีปฏิบัติการทำการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายน้ำกระท่อม 10 เป้าหมายทั่ว กทม. สามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รวบหนุ่มใหญ่ ข่มขืนเพื่อนลูกวัย 17 ปีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.๖ บก.ปคม., พ.ต.ท.นภสินธุ์ ภูมี รอง ผกก.๖ บก.ปคม.,  พ.ต.ท.สามารถ เทพมณี รอง ผกก.๖ บก.ปคม., พ.ต.ท.วชิระ ศุภพิสิฐกุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.๖ บก.ปคม., พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.๖ บก.ปคม. และ พ.ต.ท.ประวิทย์ ว่องไว ประจำ (สบ ๓) บก.ปคม. ช่วยราชการ กก.๖ บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐพร ช่วยนุกูล สว.กก.6 บก.ปคม., ร.ต.อ.กฤษณะวัฒน์ นนทะสร รอง สว กก.๖ บก.ปคม., ด.ต.นุกูล ปาโต, ด.ต.รณชัย พรหมทอง, จ.ส.ต.สุธรรม จันทชาติ, จ.ส.ต.กอเหลกเภอเกลี้ยง, ส.ต.อ.ฉันทพล สะรุโณ ผบ.หมู่ กก.๖ บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายสติวัตรฯ อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.188/๒๕67 ลงวันที่19 มีนาคม ๒๕67 ฐานความผิด “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้อวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น,พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย เพื่อการอนาจาร” สถานที่จับกุม บริเวณบ้านเช่า (ชุมชนแห่งหนึ่ง) ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา   พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้ออกไปเดินเล่นที่ริมทะเลประมงใหม่ กับด.ญ.เจ (นามสมมติ) และด.ญ.บี (นามสมมติ) ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องกัน หลังจากนั้น ด.ญ.เจ และด.ญ.บี ได้ชวนนางสาวเอ ไปนอนค้างคืนที่บ้านพัก ที่ชุมชนแห่งหนึ่ง ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลาจ.สงขลา เมื่อถึงบ้านพักก็พบกับนายสติวัตรฯ ซึ่งเป็นบิดาของ ด.ญ.เจ และด.ญ.บี ซึ่งทั้งสามคนนอนในห้องเดียวกัน จากนั้นประมาณ 21.00 น. นายสติวัตรฯ ได้เข้ามาภายในห้องนอนและข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ จำนวน 1 ครั้ง จากนั้นก็กลับออกไป ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงคืน นายสติวัตรฯ ได้เข้ามาภายในห้องนอนบังคับให้นางสาวเอออกไปยังห้องนั่งเล่น และลงมือข่มขื่นกระทำชำเราอีกหลายครั้ง ต่อมาในวันที่18 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวเอได้กลับบ้านและแจ้งให้ผู้ปกครองทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองจึงพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสติวัตรฯ ที่ สภ.เมืองสงขลาต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบว่า นายสติวัตรฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับยังอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ชุดจับกุมจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเดินทางไปถึงพื้นที่ดังกล่าว พบบุคคลซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับยืนอยู่บริเวณที่สถานที่จับกุม จึงได้แสดงตัว แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ นายสติวัตรฯ ทราบ และนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองสงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

เปิดนาทีบุกจับ 'ไฮโซ' ขืนใจสาว หลังเหยื่อเครียดโดดตึกเจ็บสาหัส เจ้าตัวปัดข้อกล่าวหา อ้างคบหากัน อ่านข่าว : https://ch3plus.com/news/social/ruangden/392371 #เรื่องเด่นเย็นนี้ #3PlusNews #ข่าวช่อง3[fb_vid id="1057132295357116"] ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/725200823159627 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

ชาวเน็ตสวดยับ แก๊งบิ๊กไบก์ออกทริป ไม่มีคันไหนติดป้ายทะเบียน แถมยังขี่เต็มถนน . อ่านข่าวในคอมเมนต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/725185049827871 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

พรุ่งนี้แหละที่มีปัญหา สติ สติ 👍👍 คนไทยเเพ้เสียง เเตรรถ !! 🚗 [fb_vid id="750740907045692"] ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/725188836494159 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม “ศักดิ์ เขาหิน” ขาใหญ่ศรีราชา พร้อมของกลางยาบ้า 2,330 เม็ดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์นุชนารถ ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน., พ.ต.ท.ฉัตรธีรพล แทนสง่า รอง ผกก.5 บก.รน., พ.ต.ท.อาจินต์ วังวรรธนะ รอง ผกก.5 บก.รน. และพ.ต.ท.อำนาจ ชูกลิ่น รอง ผกก.8 บก.รน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ทยากร กุศลศิลปบัญชร สว.ส.รน.1 กก.5 บก.รน., ร.ต.อ.ยงยุทธ กองทอง รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.1 กก.5 บก.รน. ร่วมกันจับกุม นายสมศักดิ์ฯ อายุ 48 ปี ในข้อหา มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย กระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดความแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย   พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 2,330 เม็ด สถานที่เกิดเหตุ บริเวณ หน้าห้องพักไม่มีเลขที่ ซอยเขาหิน 1 ม.6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีพฤติการณ์ ตามนโยบายของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการกวาดล้างระดมจับกุมและปราบปรามอาชญากรรม และประกอบกับมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่อำเภอศรีราชาและอำเภอใกล้เคียง กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ จึงได้สั่งการ พ.ต.ต.ทยากร กุศลศิลปบัญชร สว.ส.รน.1กก.5 บก.รน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.รน. ทำการตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจากการตรวจสอบพบว่านายสมศักดิ์ฯ มีพฤติการณ์ จำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลทั่วไป รวมถึงแรงงานประมงในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการวางแผน จับกุม เมื่อไปถึงสถานที่จับกุม พบผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาบ้า จำนวน 2,330 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาและทำการจับกุม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่ายาบ้าเป็นของตนจริง โดยจำหน่ายให้แก่คนทั่วไป รวมถึงกลุ่มแรงงานประมงตามท่าเรือต่างๆ โดยผู้ต้องหาเคยถูกจับในคดี จำหน่ายยาเสพติดในปี 2566 และปัจจุบันได้หลบหนี จนถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.แหลมฉบัง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ตำรวจไซเบอร์จับกุมผลิตเครื่องสำอางปลอมขายออนไลน์  เมื่อวันที่ 23 มี.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์  ผกก.2 บก.สอท.5 นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.58/2567 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2567 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 100 ม.7 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา  พร้อมทั้งจับกุมตัวนายเอกลักษณ์ ช่วยรัตน์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องสําอางบรจุภัณฑ์และเครื่องสําอางบรรจุเสร็จแล้วอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว     สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลา รับแจ้งมีเครื่องสำอางและมีสิ่งผิดกฎหมายอื่นชุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนายเอกลักษณ์ จึงได้นําหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องสําอางบรจุภัณฑ์และเครื่องสําอางที่ผลิตและบรรจุเสร็จแล้วอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวจำหน่ายมาก       จากการสอบสวนนายเอกลักษณ์ให้การยอมรับว่า ตนเองและบ้านหลังนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการผลิตเครื่องสําอาง และ ขายเครื่องสำอางแต่อย่างใด ของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองที่ได้สั่งซื้อเนื้อครีมสําเร็จรูปมาจากลูกค้าและได้นําเนื้อครีมดังกล่าวมาเข้าเครื่องกวนครีมอีกครั้ง เพื่อให้เนื้อครีมละเอียดอและเนื้อครีมเนียนละเอียด เพื่อให้ง่ายต่อการบรรจุลงภัณฑ์ พร้อมทั้งติดฉลากยี่ห้อต่างๆ เองภายในบ้านหลังนี้ โดยตนเองได้จ้างพนักงานสําหรับติดฉลากบนบรรจุภัณฑ์ ตนเองก็เป็นผู้บรจุผลิตภัณฑ์ด้วยเครื่องสําอางบางส่วนที่ตนได้บรจุ ติดฉลากเสร็จแล้วก็จะจัดส่งจำหน่ายในช่องทางออนไลน์และจำหน่ายทั่วไปโดยมีลูกค้าจะเข้ามารับสินค้าด้วยตนเอง โดยมีลูกค้าทั้งในพื้นที่อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทําการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบแล้วแจ้งข้อหา ผลิตเพื่อขาย นำเข้าเพื่อขาย หรือรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่ได้จดแจ้ง ผลิตเพื่อขาย นำเข้าเพื่อขาย รับจ้างผลิตหรือขายเครื่องสำอาง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บิ๊กโจ๊ก ถือโอกาสวันหยุด เลี้ยงอาหารกลางวันให้กับ บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร โดยนำข้าวมันไก่จากร้านดังย่านประชาชื่น ไปเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กๆ และพูดคุยกับเด็กๆ ที่นั่งรับประทานอาหารอย่างเป็นกันเอง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า การได้ช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส  ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้คนละไม้คนละมือ เพราะเด็กเด็กเหล่านี้ก็คืออนาคตของประเทศ พวกเขาจะได้เติบโตมาท่ามกลางความรักที่สังคมมอบให้ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อประเทศไทยการทำความดีด้วยการแบ่งปันความสุข ให้กับผู้ด้อยโอกาส ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้ผู้ให้มีความสุข ผู้รับก็  และการแบ่งปันก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีก็ช่วย พร้อมก็ช่วย ถ้าหากทุกคนช่วยกันคนละเล็ก คนละน้อย ก็จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยในช่วงเย็นวันนี้ ก็จะไปพบปะกับพี่น้องชาวปักษ์ใต้ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง  ซึ่ง การพบปะกับพี่น้องชาวใต้ ก็เป็นอีกบทบาทหน้าที่ของผม ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ซึ่งผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาส จะเดินสาย พูดคุยและรับประทานอาหารกับเพื่อนสมาชิกในสมาคม ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพราะ ลูกหลานชาวใต้ ก็กระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาค จากการย้ายถิ่นฐาน การสมรส การศึกษา ไปจนถึงการเดินทางไปทำงานต่างถิ่น ดังนั้นการจะขับเคลื่อนสมาคมให้มีความเข้มแข็ง ก็ต้องพบปะกับสมาชิกสร้างความคุ้นเคยและมิตรไมตรีจิตที่มีต่อกัน โดยในอนาคตจะวางแผนทำกิจกรรมร่วมกันในแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างสังคมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

อิอิ ไอ้สสสส ว.00 นักร้องดังถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์ หลักฐานชัดเจนทั้งคลิปเสียง และเงินสดวันนี้ ออกมา ลอยหน้าลอยตาเหมือนเดิมครับ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/724822216530821 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

คุมตัว 5 วัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายอาสากู้ภัยฝากขังพนักงานสอบสวน สน. คันนายาวควบคุมตัว 5 วัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้รับบาดเจ็บ เหตุเพราะไปช่วยเหลือ หนึ่งในผู้ก่อเหตุที่ถูกกระจกบาด ช้าไม่ทันใจ ไปขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งก่อนที่ตำรวจจะนำตัวไปฝากขัง กลุ่มผู้ต้องหายังไม่สำนึก ได้ตะโกนท้าทายกับผู้ต้องหาคดีอื่นที่อยู่ห้องควบคุมฝั่งตรงข้าม แถมยังขว้างปาขวดน้ำพลาสติกใส่ด้วย นอกจากนี้ยังมีการตะโกนด่าทอญาติผู้ต้องหาคดีอื่นที่พูดคุยกับผู้ต้องหาว่า ส่งเสียงดังรำคาญ นายภูมิบดินทร์ นามสุดใจ หนึ่งผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดจึงแจ้งไปขอความช่วยเหลือ เมื่อกู้ภัยมาถึงก็ไม่ได้ทำการปฐมพยาบาล และพาตนเองไปโรงพยาบาลเสึยที จึงขอร้องให้รีบพาตนเองไปส่งโรงพยาบาล เพราะเลือดยังไหลไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือตามที่ขอ ทำให้รุ่นน้องเกิดความโมโหก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยังปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาเสพติดด้วย ด้านพันตำรวจเอก นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้แยกผู้ต้องหาออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากมีเยาวชน 3 คน และผู้ใหญ่ 2 คน ผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนจะส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่จะศาลอาญามีนบุรี โดยทุกคนถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหา 1 คน ที่พบสารเสพติดในร่างกาย ได้ดำเนินคดีข้อหาเสพ และครอบครองยาเสพติดเพิ่มเติม โดยไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัวเพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลได้ สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา โดยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งจากตำรวจ สน. คันนายาว ว่า มีผู้แจ้งขอความช่วยเหลือให้ไปทำแผลปฐมพยาบาลเนื่องจากถูกกระจกบาด เมื่อ นายพิเชษ โสติ อาสาสมัครฯ ไปถึงก็พบว่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวอยู่ในอาการที่ผิดปกติคล้ายคนเมายา จึงต้องประสานตำรวจมาร่วมสังเกตการณ์ ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บและกลุ่มเพื่อน ไม่พอใจที่ต้องรอ ถึงขั้นรุมทำร้าย และทุบทำลายรถกู้ภัยได้รับความเสียหาย เหตุเกิดใกล้บ้านของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ แขวงออเงิน เขตสายไหม ซึ่งต่อมาตำรวจก็จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงไม่พอใจรวมตัวกันมาดักรอที่ สน.คันนายาว หวังสำเร็จโทษรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จนเกิดความวุ่นวายบ้างเล็กน้อย แต่ตำรวจก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

รวบ‘สองสาวคู่รักมิจฉาชีพ’ลวงสั่งสินค้า ก่อนหลอกให้พนักงานส่งของ เติมเงินเข้าวอลเล็ต   ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ดูแล ความปลอดภัยของ ประชาชน และปราบปรามมิจฉาชีพที่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม     โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์ใช้แอปพลิเคชั่นสั่งสินค้าผ่านระบบเดลิเวอรี่ สร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานซึ่งหากินสุจริตหาเช้ากินค่ำ           เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 ดำเนินการเจ้าหน้าที่สืบนครบาล จับกุม         1. น.ส.พรชิตา อายุ 23 ปี ภูมิลำเนา อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนครตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 42/2567 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2567         2.น.ส.สุพัตรา อายุ 28 ปี ที่อยู่ ภูมิลำเนา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 44/2567 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่า“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”           จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน ที่บริเวณหน้าบ้าน ซอยวุฒากาศ 57  ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร           พฤติการณ์ กล่าวคือ กลุ่มคนร้ายได้ใช้งานแอปพลิเคชั่นร้านสะดวกซื้อเดลิเวอรี่ และแจ้งข้อมูลพิกัดสถานที่จัดส่งและเบอร์โทรศัพท์ให้พนักงานทราบเพื่อจัดส่งและติดต่อ เมื่อพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ใกล้จะเดินทางไปจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ คนร้ายจะทำทีโทรศัพท์ติดต่อหาพนักงานส่งเดลิเวอรี่เพื่อหลอกให้พนักงานจัดส่ง เดลิเวอรี่เติมเงินทวอลเล็ต หรือบางครั้งก็ให้เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือให้เพิ่มเติม เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่หลงเชื่อเติมเงินให้เรียบร้อย ก็ไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนของเบอร์โทรศัพท์ที่นำมาเปิดบัญชีวอลเล็ต และเบอร์โทรสำหรับผูกบัญชีแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ตนเป็นผู้ว่าจ้างให้คนอื่นมาเปิดใช้งานให้โดยให้ค่าจ้างเปิดซิมพร้อมกับสแกนใบหน้าเพื่อสมัครวอลเล็ตเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป          พล.ต.ต.ธีรเดช   ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก 

อนุทินบอกเพ้อเจ้อ ไร้สาระ คนมหาดไทยเปิดบ่อนวันนี้ (22 มี.ค.67) ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบุกบ่อนบางใหญ่ ซึ่งต่อมานายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ได้ออกมาให้ข้อมูลโดยอ้างว่ามี ข้าราชการการเมืองในกระทรวงมหาดไทยอยู่เบื้องหลังบ่อนแห่งดังกล่าวนายอนุทิน หัวเราะก่อนระบุสั้นๆว่า อย่าเพ้อเจ้อ  พร้อมกว่าต่อว่าไม่ไม่ ฝากถึงคนที่พูดถึงประเด็นนี้เพราะไร้สาระ สำหรับคดีบ่อนบางใหญ่ ขณะนี้ได้ทำการส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยถือว่าได้ทำหน้าที่ครบจบแล้ว และย้ำว่าไม่จำเป็นต้องกำชับผู้ว่าราชการทั่วประเทศถึงเรื่องนี้เพราะเป็นหน้าที่ตามปกติ ซึ่งการจับบ่อนดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีก็ได้ลงพื้นที่ด้วย พร้อมระบุว่ามีรายงานเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับกรณีการเปิดบ่อนการพนันทั่วประเทศ ซึ่งต้องมีการประมวลข้อมูลต่างๆ เชื่อใครคนใดคนนึงไม่ได้ ไม่ใช่ไปจับสุ่มสี่สุ่มห้า นายอนุทิน ระบุด้วยว่าโทษเรื่องการพนันอาจจะแรงไม่มากพอ เพราะเมื่อจับได้เพียงโทษปรับ 1000 บาท ซึ่งมองว่า ลองใครเปิดบ่อนแล้วประหารชีวิต บ่อนก็จะไม่มี เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะทำให้บ่อนการพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย  นายอนุทิน ระบุว่าหากถามตนเอง ก็เป็นไปไม่ได้ และหากเปิดก็ต้องจับไปเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า ต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับกาสิโนถูกกฎหมาย แต่คนเดียวไม่สามารถทำได้ ต้องมีการหารือร่วมกันและตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งอย่าง ต้องดูในหลายมิติ แต่หากถามว่าตนเองเห็นด้วยกับกาสิโนถูกกฎหมายหรือไม่นั้นตนเองก็เห็นด้วย ว่าต้องมีกฎหมายควบคุมอย่างจริงจัง ทำให้เป็นที่เกิดความเสียหายแก่สังคม คนที่เข้าไปต้องมีวุฒิภาวะและรับทราบถึงผลได้ผลเสีย เพราะโลกปัจจุบันจะบอกว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธแล้วไม่มีกาสิโนคงเป็นไปไม่ได้

สะพัด "บิ๊กต่าย" สั่งเด้ง "ผู้การนนท์" คาดเซ่นปม "โคตรบ่อนพระปิ่น 3" ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/724173879928988 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

“ทนายอั๋น บุรีรัมย์” ร้องเอาผิด ม.157 กกต. ปมยุบพรรคก้าวไกล วันนี้ (21 มี.ค 67) เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกองเชียร์พรรคก้าวไกล ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิด กับ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กรณีไม่ดูแลควบคุม และ/หรือ ติดตามนโยบายของพรรคก้าวไกล จนนำสู่การมีวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฏหมายประมวลอาญา มาตรา 112 ทนายอั้น กล่าวว่า ตนและมวลชนมารวมตัวกันวันนี้ เพื่อที่จะประกาศให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการภายใต้องค์กรของตัวเองทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่เห็นหัวของประชาชน ตนจะสู้ภายใต้กฎหมายรัฐนูญที่ถึงแม้จะเสียเปรียบแต่ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด  จึงได้มาแจ้งความเอาผิด กับ กกต. นำโดย นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากกรณี การยื่นเรื่องยุบก้าวไกล ประเด็นการหาเสียง มาตรา 112 ในการเลือกตั้ง  14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ตนเห็นว่า กกต. มีหน้าที่ในการดูแลควบคุม นโยบายและกิจการของนักการเมืองให้ อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 224 (5) (6) และกกต. มีหน้าที่ในการตรวจสอบและติดตาม ข้อบังคับของ พรรคการเมืองและนโยบาย ก่อนการหาเสียง ว่าพรรคการเมืองใดมีนโยบายที่ละเมิดหรือผิดต่อกฎหมาย และรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทางพรรคก้าวไกลส่งนโยบายก่อนการหาเสียงให้ทางกกต. ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทางกกต. กับเพิกเฉยและละเลยในการปฎิบัติ ดูแลควบคุม นโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งถ้าในการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในนโยบายมาตรา 112 ผิดกฎหมาย กกต. ก็ควรตรวจสอบตั้งแต่แรก และชี้แจงไปทางพรรคว่านโยบายมาตรา 112 ผิดต่อการหาเสียง แต่พอหลังเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยกลับค่อยมาบอกว่านโยบายมาตรา 112 ผิดซึ่งก็ทำให้เห็นว่า ทางกกต. ปล่อยประละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมือง จึงทำให้ตนได้มาแจ้งความเอาผิดกับกตต. ว่าผิดกฎหมายมาตรา 157 หรือไม่  และประเด็นในเรื่องของการที่ตนได้ไปร้องยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย  วันที่ 15 มี.ค ที่ผ่านมา โดยทาง กกต. เผยว่า การยุบพรรคภูมิใจไทยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่มีการวินิจฉัยว่าจะพรรคภูมิใจไทย แต่ตัดมาที่พรรคก้าวไกล กลับอยู่ในขั้นตอนขั้นที่ 7 ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อย ซึ่งตนได้มายื่น เรื่องยุบพรรคภูมิใจไทยก่อนที่นายเรืองไกร จะมายืนเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ห่างกันประมาณ ครึ่งเดือน จึงทำให้เห็นพฤติการณ์ของกกต. ว่าไม่มีความเป็นธรรม และเลือกปฏิบัติ จึงทำให้ตนต้องมา แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต. ในวันนี้ ตามมาตรา 157   เบื้องต้น นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์  ได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อที่จะยื่นเรื่อง แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต. ต่อไป

CHANGE LANGUAGE
Powered by
คนข่าวออนไลน์ khonkhao.com
ตีแผ่ ทุกเรื่องราว เจาะลึกทุกความจริง ช่วยเหลือทุกพื้นที ด้วยทีมข่าวมืออาชีพ
บริการของเรา
รูปภาพของเรา
ที่ตั้งของเรา
บัญชีชำระเงิน

คนข่าวออนไลน์ khonkhao.com

ตีแผ่ ทุกเรื่องราว เจาะลึกทุกความจริง ช่วยเหลือทุกพื้นที ด้วยทีมข่าวมืออาชีพ

แชร์หน้านี้
โหลดหน้าใหม่
คัดลอกลิงก์