บทความทั้งหมด

1,313 รายการ

หนุ่มวัย 24 ขี่จยย.พกปืนลูกโม่เข้าด่าน อาการออกเตรียมบิดหนี สุดท้ายไม่รอดสารภาพ ยืมปืนเพื่อนมาป้องกันตัว #วัยรุ่น #ปืน #ตำรวจ #ด่านตำรวจ #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732729942406715 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

เปิดใจผู้จัดการหลังดราม่าพบทิชชู่ในหม้อชาบูผิดพลาดจริงพร้อมรับผิดชอบ #ชาบู #ทิชชู่ #ผิดพลาด #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732730299073346 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

รวบโจ๋ 18 เก็บทรงไม่อยู่ ถูกตำรวจค้นตัวพบปืนปากกา และอุปกรณ์บดกัญชา #วัยรุ่น #ปืนปากกา #กัญชา #ตำรวจ #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732730532406656 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

รวบโจ๋ 18 เก็บทรงไม่อยู่ ถูกตำรวจค้นตัวพบปืนปากกา และอุปกรณ์บดกัญชา วันนี้ (5 เม.ย.67) เวลาประมาณ  01.00 น.ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก. สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.ทองรชฎ เหรียญสุวงษ์รอง ผกก.ป.สภ.รัตนาธิเบศร์ ปฎิบัติการโดย พ.ต.ต.ยงยุทธ เหล่ารัดเดชา สวป.สภ.รัตนาธิเบศร์ ร.ต.ท.สุดใจ คำหยาด รอง สว.(ป.)สภ.รัตนาธิเบศร์ เวรรัตนา20 พร้อมกำลังสายตรวจ ว.20 ได้ร่วมจับกุมตัวนายฐิติวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ได้ที่บริเวณริมทางสาธารณะถนนรัตนาธิเบศร์แยกพระนั่งเกล้า ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมด้วยของกลาง คือ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนปากกา) 1 กระบอก โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า  ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร สอบถามนายฐิติวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ปืนเป็นของตนเองจริงซึ่งประดิษฐ์มาเองเพื่อใช้ป้องกันตัว วันนี้ได้พกมาแต่ปืนไม่มีลูก และในตัวมีเพียงแค่อุปกร์บดกัญชาและไฟแช็ค

เปิดใจผู้จัดการหลังดราม่าพบทิชชู่ในหม้อชาบูผิดพลาดจริงพร้อมรับผิดชอบ จากกรณีเพจร้าน Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ชี้แจงและอธิบายข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ร้าน Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง สาขาสนามบินน้ำ วันที่ 03/04/2567 เวลาประมาณ 20.00-22.00 น. ทางเราได้ไตร่ตรองอยู่นานว่าจะโพสต์ดีไหม โพสแล้วจะเป็นอย่างไรต่อและได้ข้อสรุปว่าอยากให้ลูกค้ารับฟังเสียงของพวกเราในฐานะผู้ให้บริการ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทางเราได้รับสายแจ้งจากผจก.ร้าน ในเวลาดังกล่าว ว่ามีลูกค้าเข้ามาใชับริการ 3 ท่าน ผู้ใหญ่ 2 และเด็ก 1 กำลังโมโหเสียงดังอยู่ที่ร้าน ในขณะที่มีลูกค้าท่านอื่นๆใช้บริการอยู่ จากการสอบถาม ผจก.ร้าน ได้รับรายงานสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าโมโหและไม่พอใจเนื่องจากสาเหตุดังนี้1.ลูกค้าแจ้งว่ามีทิชชู่อยู่ในถาดคอนโด และในหม้อชาบูที่ลูกค้าทานอยู่2.ปูอัดมีรสชาติที่ผิดปกติ3.เคยมาใช้บริการในครั้งก่อน น้ำหวานที่ร้านก็มีรสชาติผิดปกติ ครั้งนี้ก็เจอทิชชู่ในหม้ออีกจึงขอเช็คบิลไป แจ้งว่าทานไม่ลงแล้วหลังจากที่เข้าใช้บริการไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ทางพนักงาน และผู้จัดการร้านได้รีบเข้าไปไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที โดยที่ยังไม่ได้คิดแม้แต่จะตรวจสอบอะไร พนักงานทุกท่านพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะบริการให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจมากที่สุด  แต่หลังจากเราตรวจสอบวัตถุดิบ พบว่า ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้แจ้งอะไรกับลูกค้าเพื่อไม่ให้มีปัญหากับลูกค้า เราจึงได้แต่ขอโทษ ยกมือไหว้อยู่อย่างนั้น ขอโทษแล้วขอโทษอีก ทั้งที่โต๊ะและหน้าเคาร์เตอร์  ต่อมาเราได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าลูกค้านำทิชชู่ที่ใช้เช็ดปากวางไว้บนถาดคอนโด และใช้ตะเกียบคีบทิชชู่ลงไปในหม้อ (วีดีโออยู่ในคอมเม้น) เท่านั้นยังไม่พอ ยังต่อว่าร้านเรา และพนักงานของเราในเรื่องนี้ ซึ่งพนักงานของเราตั้งใจให้บริการกับลูกค้าเต็มที่เพื่อที่จะบริการออกมาให้ดีที่สุด ขอโทษลูกค้าก่อนที่จะตรวจสอบ รับผิดทุกอย่างโดยที่ไม่มีคำถามอะไรเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากเท่าที่จะทำได้ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ออกมาดีที่สุด แต่พอมาทราบแบบนี้ทางร้านของเราและพนักงานเสียใจกับเหตุการณ์นี้มากๆ ลูกค้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ลูกค้าต้องการอะไร พนักงานทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแแล้วแต่กลับถูกต่อว่าในสิ่งที่พวกเค้าไม่ได้ทำผิดอะไร เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว เรายังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ลูกค้าท่านอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ทยอยเช็คบิลออกจากร้าน ซึ่งทางพวกเรากังวลจึงขออธิบายและตัดสินใจโพส โพสนี้เพื่อชี้แจง และขอโทษลูกค้าท่านอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย และนี่คืออาหารที่เหลือบนโต๊ะหลังจากทึ่ลูกค้าเช็คบิลออกไป หลังจากทานไปประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที  พวกเรา Dragongrill ทุกสาขา และพนักงานทุกคน ต้องกราบขออภัยลูกค้าทุกท่านที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย และพวกเรา Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง ร้านเล็กๆ ที่อยากจะตั้งใจบริการต่อไป เพื่อความพอใจของลูกค้าทุกท่าน และถ้าที่ผ่านมาพวกเราขาดตกบกพร่องในเรื่องไหน เราต้องขออภัยลูกค้าทุกท่านจากใจ จากข้างใน จริงๆ เราจะพัฒนาทุกอย่างให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่คอยสนับสนุนเรามาโดยตลอด 🙏🏻 ขอบคุณมากครับ”      เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้าน Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง สาขาสนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พบน.ส.ดวงกมล พุ่มมณี อายุ 24 ปี  ผู้จัดการร้าน กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้าน 3 คน ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน ตามรายละเอียดโพสต์หน้าเพจของร้าน ซึ่งลูกค้าได้โวยวายเรื่องมีทิชชู่ในหม้อชาบู ตอนนั้นตนยังไม่ได้ตรวจสอบอะไร แต่ได้เข้าไปขอโทษลูกค้า และจะทำการเปลี่ยนหม้อให้ จากนั้นลูกค้าได้เรียกไปติเรื่องปูอัดรสชาติเปลี่ยน ซึ่งตนและในครัวชิมรสชาติปกติ และต้องการเช็คบิล ลูกค้าเสียงดังมาก ลูกค้าโต๊ะอื่นต่างตกใจและมองที่ลูกค้า รวมถึงพนักงานในร้าน ทุกคนตกใจไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากนั้นลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มทยอยเช็คบิลต่อ พอกลับไปเช็คที่โต๊ะพบอาหารเหลือเต็มหม้อรวมถึงในคอนโดที่ต้มแล้ว ทางร้านไม่ได้คิดค่าปรับ ซึ่งกรณีของทิชชู่หากเป็นความผิดพลาดของทางร้านจริงเรายินดีที่จะรับผิดชอบ ส่วนสาเหตุที่โพสต์เพื่อต้องการปกป้องพนักงานและร้าน อยากให้ลูกค้าท่านอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบความจริง ซึ่งร้านเปิดมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว สาขาแรกอยู่ที่บางบัวทอง ส่วนสาขานี้เพิ่งเปิดเมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ลูกค้าเคยเข้ามาใช้บริการแต่ก็ไม่เคยเกิดปัญหาอะไร ซึ่งตอนที่ลูกค้าแจ้งว่ามีทิชชู่อยู่ในหม้อเรายินดีที่จะเปลี่ยนหม้อให้ใหม่หากลูกค้าต้องการนั่งทานต่อแต่ลูกค้ายืนยันไม่เปลี่ยนหม้อใหม่       น.ส.ดวงกมล กล่าวต่ออีกว่า ตลอดเวลาที่ตนทำงานมาไม่เคยเจอปัญหาเรื่องทิชชู่ในหม้อ ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเล็กๆที่เราแก้ไขให้ลูกค้าได้ ซึ่งถ้าเป็นปัญหาจากทางร้านจริงเรายินดีที่จะขอโทษลูกค้า ปกติแล้ววัตถุดิบของทางร้านไม่ได้เสียและไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานที่จะเอาทิชชู่ไปใส่ ซึ่งตนไม่ทราบเหมือนกันว่าลูกค้าทำไปเพราะอะไร เราเป็นร้านอาหาร เรายินดีที่จะรับผิดชอบลูกค้าอยู่แล้ว วันที่เกิดเหตุตนรับผิดชอบโดยการให้ส่วนลดของลูกค้า 1 คน แต่ลูกค้ายืนยันจะจ่าย เมื่อวานร้านเปิดปกติมีเงียบบ้างบางช่วง ปกติช่วงเย็นจะไม่ว่างเลย เพิ่งจะมีลูกค้าช่วงมืดๆ ตนต้องขอขอบคุณกำลังใจจากทางโซเชียลที่มีให้กับทางร้าน บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังปรึกษากับทางทนาย เพื่อปกป้องพนักงานและทางร้าน ส่วนค่าอาหารหัวละ 299บาท ไม่รวม Vat 7% รวมน้ำ+Vat 7% ตกหัวละ 319บาททานไม่หมดปรับหัวละ 100บาท

หนุ่มวัย 24 ขี่จยย.พกปืนลูกโม่เข้าด่าน อาการออกเตรียมบิดหนี สุดท้ายไม่รอดสารภาพ ยืมปืนเพื่อนมาป้องกันตัวเมื่อวานนี้(4เม.ย.67) เวลา 22.30 น.ที่ผ่นมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรีพ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ปฏิบัติการโดย พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รองผกก.ป.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ต.พิเชฐ จันทร์พา สวป. สภ.บางบัวทอง (เวร 70) ร.ต.อ.ถาวร เพชรแท้ รอง สวป.พร้อมกำลังสายตรวจชุดที่ 4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 1 รายคือ นายนายนพดล คงเปี่ยม อายุ 24 ปี ได้ที่บริเวณจุดสกัดจุดกลับรถของพระพิมลราชา ม.3  ต. พิมลราช อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อ COLT’S ขนาด .38 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก 2.เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ม.ม. จำนวน 6 นัด 3.ซองพกสีดำ 1 อัน โดยแจ้งกล่าวหาว่า  มึอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาบริเวณจุดกลับรถพิมลราชา ถ.กาญจนาภิเษก หมู่ที่ 3 ต.พิมลราชา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ขณะตั้งจุดตรวจจุดสกัดได้มีรถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง แผ่นป้ายทะเบียน 3 ขบ 3869 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาในบริเวณจุดสกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้สัญญาณเพื่อขอทำการหยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบ เมื่อนายนพดล ผู้ต้องหา เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการตกใจกลัว พยายามจะกลับรถเพื่อหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้ ตำรวจจึงแสดงตัวก่อทำการขอตรวจค้นตัว  ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่บริเวณเอวด้านขวา 1 กระบอก พร้อมบรรจุกระสุนอยู่ในโม่จำนวน 6 นัด  ซุกซ่อนอยู่ในซองพกสีดำ    สอบถามนายนพดล ให้การรับว่า อาวุธปืนดังกล่าวที่พบนั้นเป็นอาวุธปืนของเพื่อนชื่อนายเป ซึ่งตนยืมมาพกไว้เพื่อป้องกันตัวพกมาก่อนขี่จยย.เข้าจุดสกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายนพดลทราบ ก่อนควบคุมนายนพดล ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ป.ป.ส.ขยายผลเครือข่าย ‘บิ๊กไบค์’ ขนยาของกลาง1.8ล้านเม็ด ล่ายึดทรัพย์ 6 จังหวัด29 ล้านวันที่ 5 เมษายน 2567 ณ จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. นางสาวพรทิพย์ แจ่มพงษ์ ผอ.ปปส.ภ.2 นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภ.5 นายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ และ พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แถลงผลปฏิบัติการยึดทรัพย์สินแก๊งบิ๊กไบค์ขนยาเสพติดที่จับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย ช่วงวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมแถลงผลยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ลุยเด็ดปีกนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออก 329 เป้าหมาย ในช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 3 เมษายน 2567  พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงการขยายผลแก๊งบิ๊กไบค์ว่า สืบเนื่องจากการจับกุมแก๊งบิ๊กไบค์ขนยาเสพติดเมื่อช่วงวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่ จ.เชียงราย โดยเป็นผลจากการร้องเรียนของประชาชนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 แจ้งว่า พบขบวนการบิ๊กไบค์ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.เชียงราย คาดว่าจะเกี่ยวกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จนนำไปสู่การสืบสวนก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์โดยเป็นเครือข่ายยาเสพติด ที่นำโดยนายสัมฤทธิ์ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้ามาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า หลังการจับกุมตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนขยายผลก่อนพบว่า แก๊งบิ๊กไบค์ดังกล่าวที่มีนายสัมฤทธิ์ เป็นหัวหน้าขบวนการลำเลียงยาเสพติด มีทรัพย์สินจำนวนมากอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด จึงเปิดปฏิบัติการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในเครือข่ายดังกล่าว โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส., นบ.ยส.35, ศขย.ฝขว.ศปก.ทบ., ศรภ., กกล.ผาเมือง, ขกท.ศปก.ทภ.3, ศอ.ปส.ทร., ภ.จว.เชียงราย, ศอ.ปส.ภ.5, บก.ปส.3 บช.ปส. และ ศอ.ปส.นสร. ปฏิบัติการใน 13 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด (จ.ชลบุรี 4, จ.พิษณุโลก 1, จ.นครสวรรค์ 2, จ.เชียงราย 2, จ.พิจิตร 2, จ.กำแพงเพชร 2) ผลการปฏิบัติ ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ทองรูปพรรณ สินค้าแบรนด์เนม สมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สิน 22 ล้านบาท ทำให้ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายนายสัมฤทธิ์ แก๊งบิ๊กไบค์ขนยาบ้า รวม 2 ครั้งมีมูลค่า 29 ล้านบาท พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้เผยถึง ผล “ยุทธการเด็ดปีกนักค้ารายย่อย” ซึ่งได้ดำเนินการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ตามเป้าหมายที่ได้รับร้องเรียนจากภาคประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่ได้มาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยจะปฏิบัติการทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง ในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยการเปิดยุทธการในพื้นที่ภาคตะวันออก ห้วงวันที่ 1 ธันวาคม 2566  – 3 เมษายน 2567 ในพื้นที่เป้าหมาย 329 เป้าหมาย ใน 8 จังหวัด (จ.ตราด, จ.ปราจีนบุรี, จ.นครนายก, จ.ฉะเชิงเทรา, จ.จันทบุรี, จ.ระยอง, จ.สระแก้ว, จ.ชลบุรี) ผลการดำเนินงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 278 คน ไม่พบตัว 25 คน…

"ทนายตั้ม" นำหลักฐาน พา "พิมพ์วิไล" บัญชีม้า ให้ข้อมูล ตร.โยง ผบ.ตร.เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 เม.ย.ที่สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางนำหลักฐานเข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน พร้อมพา น.ส.พิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) ผู้โอนเงินเข้าบัญชีม้า มาพร้อมกับ นายสัญญวีณ์ สาสุธรรม ทนายความ รวมถึงสายลับอีก 1 นาย เพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินโดยอ้างว่ามีความเชื่อมโยงถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และภริยา ในคดีเว็บพนันออนไลน์ "BNK MASTER"  นายษิทรา กล่าวว่า เป็นแผนผังเส้นทางการเงินที่น.ส.พิมพ์วิไล ที่โอนเงินจ่ายค่าสินบนให้กับบัญชีม้าต่างๆ เกือบ 10 เส้น ในจำนวนนี้พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานตำรวจอีกหลายหน่วยงาน มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน โดยมี น.ส.พิมพ์วิไล และพยานบุคคลที่เป็นสายลับเจ้าหน้าที่ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในคดีที่ตัวเองฟ้องร้องเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภรรยา และบัญชีม้า 2 คน รวม 4 คน ด้วย นายษิทรา กล่าวอีกว่า บุคคลที่พามาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ คือน.ส.พิมพ์วิไล ที่มีชื่อบัญชีเป็นบุคคลที่รับเงินจากเครือข่ายเว็บพนัน ก่อนโอนให้กับบัญชีม้าหลายบัญชี วันนี้จึงประสานให้มาให้ข้อมูล โยงถึงเส้นทางการเงินให้กับหน่วยงานตำรวจหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะบัญชีนายคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยาเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโอนจ่ายให้กับตำรวจไซเบอร์เดือนละ 1 ล้านบาท รวมถึงให้การถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเงินไปจ่ายให้กับตำรวจที่กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ หรือตำรวจคอมมานโด ด้วยว่ามีบุคคลไหนเกี่ยวข้องบ้าง นายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า หลักฐานเส้นเงินที่นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนในวันนี้ นอกเหนือจากเครือข่ายที่โยงไปถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์แล้ว หากมีเส้นเงินไปถึงใครก็ตามแม้จะเป็นคนที่ตนเองรู้จัก หรือสนิทกับตัวเองก็ตาม โดยสายลับที่ประสานมาพบกับพนักงานสอบสวนวันนี้ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ขอไม่ให้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับพนักงานสอบสวน ของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เข้าสอบปากคำบุคคลทั้งสอง ที่สน.เตาปูนในวันนี้ด้วยเช่นกัน  โดยสัปดาห์ต่อไป ในวันอังคารตนจะนำหลักฐานชุดนี้ไปยื่นให้กับ พล.ต.ท.เรวัต กลิ่นเกษร ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. โดยเช่นกัน ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) บัญชีม้าพยานปากสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคนโอนให้กับบัญชีม้า อย่างนายคชาชาญและนายณัฐพงศ์ สื่อมวลชนพยายามสอบถาม น.ส.พิมพ์วิไล  ถึงการเดินทางมาให้การในวันนี้ด้วยตัวเอง และการนำข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผย โดยระบุว่า วันนี้พร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจทุกอย่าง ยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง และยอมรับว่าตนเป็นคนโอนเงินจ่ายหลักล้าน แต่ไม่ขอตอบว่าโอนเงินให้กี่หน่วยของตำรวจบ้าง เชื่อว่าข้อมูล สเตทเม้นท์ หรือ บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด  ส่วนประเด็นว่ามีการโอนเงินจ่ายให้กี่ปีแล้ว น.ส.พิมพ์วิไล ระบุว่า จำไม่ได้ว่ากี่ปี แต่ยอมรับว่าทำหน้าที่หลักคือโอนเงิน โดยได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนให้ทำบัญชี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 บาท ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย ที่มาวันนี้ไม่มีใครบังคับ และไม่มีใครข่มขู่ในการเดินทางมา และพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และเต็มใจมาเปิดข้อมูลเอง แต่ยอมรับว่าหลังจากให้ข้อมูลในวันนี้ ก็กังวลเรื่องของความปลอดภัย น.ส.พิมพ์วิไล ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้จักตำรวจคนไหน และหลังเกิดเรื่องเมื่อรู้ว่าตัวเองกระทำความผิด ก็ได้โทรศัพท์ไปต่อว่าคนที่ว่าจ้างแล้ว ส่วนสาเหตุที่ออกมาในวันนี้ ไม่ขอตอบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน ด้านทนายสัญญวีณ์ ระบุว่า วันนี้ลูกความตนเข้ามาให้ข้อมูลตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง หลักฐานเอกสารทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่าไม่ได้พาดพิงถึงใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เพียงแต่ให้การตามความเป็นจริงตามพยานหลักฐาน จะแพ้ชนะอยู่ที่พยานหลักฐานทั้งหมด การที่ลูกความตนออกมาให้ข้อมูลอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในอนาคตนั้น นายสัญญวีณ์ ระบุว่า การจะดำเนินคดีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง ยอมรับหากถูกแจ้งข้อหา ต้องไปสู้กันหลังจากนั้น

บุกจับพนันออนไลน์ เครือข่าย4 เว็บ รวบ 8 ผู้ต้องหา  พบเงินหมุนเวียนในระบบ 250 ล้านบาทวันนี้ (5 เม.ย.67)    พล.ต.ต.ไพโรจน์  สุขรวยธนโชติ  รอง ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.3 หรือ ตำรวจไซเบอร์ และตำรวจ สน.โชคชัย นำหมายศาล เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ในบ้านหลังหนึ่ง ซอยนาคนิวาส 44 แขวงและเขตลาดพร้าว  จากการเข้าตรวจค้น พบผู้ต้องหา 1 รายคือ นายอนุวัฒน์ อายุ 33 ปี พร้อมยึดของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์ 41 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 58 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม  21 ใบ ซิมโทรศัพท์ 203 ซิม โทรศัพท์มือถือ 16 เครื่อง  พล.ต.ต.ไพโรจน์   เปิดเผยว่า วันนี้เป็นปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมาย เกี่ยวกับความผิด เกี่ยวกับอบาบมุขทุกประเภท วันนี้ เป็นปฏิบัติการควบคุมการพนันออนไลน์ ทางตำรวจไซเบอร์ โดย สอท.3 ได้ทำการสืบสวนจนรวบรมพยานหลักฐานต่าง ขออนุมัติศาลลออกหมายจับผู้ต้องหา 20 ราย วันนี้ขอหมายค้น 12 จุด ในกรุงเทพมหานคร  8 จุด และ จ.สระแก้ว 4 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 8 คน โดยที่ จ.สระแก้ว จับกุมได้ 5 คน และที่กรุงเทพฯ 3 คน  ก่อนเข้าทำการตรวจค้นจับกุม ได้ประสาน พื้นที่ คือ สน.โชคชัย เข้ามาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ด้วย พบผู้ต้องหา 1 คน และของกลางหลายรายการ   พล.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า เเว็บพนันออนไลน์ครือข่ายนี้มีทั้งหมด 4 เว็บ เปิดมาไม่ต่ำกว่า 6-7 ปี  ทีมสืบสวน สอท.3 ทำการสืบสวนมาประมาณ 5-6 เดือน ช่วงนี้เป็นช่วงนโยบายที่เร่งรัด ก็เป็นจังหวะที่ขอหมายจับ  หมายค้นจากศาลได้เมื่อวาน  สำหรับนายอนุวัฒน์ ที่ถูกจับกุมได้ ที่บ้านพักย่านนาคนิวาส  มีหน้าที่ในการยิงแอดโฆษณา ส่วนอีกหน้าที่หนึ่ง คือ มีหน้าที่ไปรับเงินจากหัวหน้าตามคำสั่ง แล้วนำไปให้ตามจุดนัดหมาย ซึ่งให้การรับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์   และยังมีข้อมูลอีกว่า นายอนุวัฒน์ เรียนจบมาทางด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มีความสามารถและเชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์  และจากการตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ มีความเชื่อมโยงกับหลักฐานที่ ตำรวจ สอท.3 สืบสวนมา    ส่วนผู้ต้องหา อีก 7 คนที่ถูกจับได้  จะทำหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งเป็นเจ้าของบัญชี  เป็นคนถอนเงิน  ยิงแอดโฆษณา และมีการทำหน้าที่เปิดบัญชี   ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยอดเงินในเครือข่ายนี้ พบมีเงินหมุนเวียนประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนหัวหน้าเครือข่ายนี้  จากการตรวจสอบ พบข้อมูลว่า เดินทางไปต่างประเทศแล้ว แต่ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้วเช่นกัน และตำรวจมีข้อมูลว่า หัวหน้าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์นี้ เคยเป็นแขกร่วมรายการ อายุน้อยร้อยล้าน  ด้วย  อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป

จับลูกจ้างแสบฉกเงินเกือบล้านบาท หลบหนี พบประวัติเพิ่ม ก่อเหตุฉกทรัพย์นายจ้างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ, พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.ร่วมกันจับกุม นางสาวสิริรัตนาฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหามี 5 หมายจับ1. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 102/2565 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”2. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 90/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”3. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 141/2565 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”4. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 143/2565 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”5. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 186/2565 ลงวันที่ 19 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกง”สถานที่จับกุม บริเวณซอยพหลโยธิน 48 แยก 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานครพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2563 ผู้ต้องหาได้เข้าทำงานที่บริษัทผลิตขนมอบกรอบในย่านปทุมธานี ตำแหน่งพนักงานธุรการและบัญชี ต่อมาประมาณกลางปี 2564 ผู้ต้องหาได้นำเงินของทางบริษัทที่ใช้สำหรับชำระค่าสินค้ากับทางบริษัทคู่ค้าและค่าเช่าสถานที่ไปและปลอมเอกสารใบสั่งซื้อสินค้าและใบเสร็จรับเงินต่างๆ เพื่อให้ทางบริษัทผู้เสียหายชำระเงินตามเอกสารที่ผู้ต้องหาจัดทำขึ้นมา ซึ่งก่อเหตุกว่า 20 ครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหายกว่า 850,000 บาท เมื่อบริษัทผู้เสียหายทราบเรื่องจึงได้ ฟ้องศาลจังหวัดปทุมธานีเพื่อดำเนินคดี​จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ภายหลังที่ผู้ต้องหาได้หลบหนีคดียักยอกเงินจากบริษัทดังกล่าว ต่อมาประมาณปี 2566 ผู้ต้องหาได้สมัครงานร้านซูชิย่านจังหวัดนนทบุรีและได้ก่อเหตุลักขโมยเงินของทางร้านไป จำนวน 15,056 บาท เจ้าของร้านซูชิทราบเรื่อง จึงได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย​จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหาจะมาบ้านญาติภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณภายในซอยดังกล่าว จากนั้นนำตัวส่งศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป​สอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นคนนำเงินทางบริษัทไปจริง โดยอาศัยระยะเวลาการวางบิลสินค้า 30 วัน แล้วนำเงินที่ได้ไปหมุนใช้ส่วนตัว แต่หมุนเงินคืนไม่ทัน ส่วนคดีลักเงินของทางร้านซูชิ ผู้ต้องหารับว่า ได้อาศัยความไว้ใจของทางเจ้าของร้านเป็นผู้เก็บรักษาเงินยอดขายต่อวัน ได้นำเงินไปหมุนใช้ส่วนตัว ประกอบกับเป็นหนี้นอกระบบ จึงไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้

จับกุม 4 รุ่นพี่ลวงเด็กหญิงรุ่นน้อง ไลฟ์สดคลิปอนาจาร พบเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 14-16 ปี ถูกล่อลวงตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช  ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ, พ.ต.ท.พระเนียง พรมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิระยะพงศ์ สว.กก.2บก.ปคม., ร.ต.อ.ต้นกล้า ถมกระจ่าง รอง สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. จับกุมผู้ต้องหา1. นายศุภากรฯ อายุ 18 ปี2. น.ส.ณิชาฯ อายุ 18 ปี3. น.ส.บงกชกรฯ อายุ 18 ปี4. นายปุณยวัจน์ฯ อายุ 19 ปีซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน  1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกเด็ก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้2. ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกเด็ก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี3. ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก4. ร่วมกันประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก5. ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนเพื่อการใด ​พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมกลุ่มรุ่นพี่ 3 คน ร่วมกันล่อลวงเด็กผู้หญิงรุ่นน้องให้มาถ่ายทอดสดวีดีโอโป๊เปลือยผ่านแอปพลิเคชัน Discord โดยจะมีเด็กผู้หญิงหลายคน สลับกันมาทำท่าทางอนาจารต่างๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศหรือบางครั้งก็เป็นการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ของเด็กหญิงกับผู้อื่นและเรียกเก็บเงินจากผู้เข้าชม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเด็กหญิงดังกล่าวทราบว่าได้รับการชักชวนจากรุ่นพี่ในกลุ่ม Discord ให้มาทำงานหารายได้พิเศษ โดยให้เปิดกล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดตัวเองถอดเสื้อผ้าโป๊เปลือย ทำท่าทางปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง แลกกับเงินส่วนแบ่งที่ได้รับจากการเก็บเงินค่าเข้าชมการถ่ายทอดสดในแต่ละครั้ง ประมาณ 1,000 - 2,000 บาทเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นตรวจค้นบ้านพักอาศัยของผู้ร่วมกระทำผิดและจับกุมผู้ร่วมกระทำผิด จำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นายศุภากรฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม Discord และเป็นหัวหน้ากลุ่มในการจัดการระบบการถ่ายทอดสด 2.น.ส.ณิชาฯ ทำหน้าที่เป็นคนดูแลจัดคิวการถ่ายทอดสดของเด็กหญิงในแต่ละวันและแบ่งเงินรายได้ 3.น.ส.บงกชกรฯ ทำหน้าที่เป็นดีเจพูดชักชวนให้สมาชิกโอนเงินเพื่อให้เด็กหญิงที่มาถ่ายทอดสดนั้นกระทำท่าทางอนาจารต่างๆตามที่สั่ง​ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลเด็กผู้หญิงที่อยู่ภายในวิดีโอลามกอนาจารสามารถพิสูจน์ตัวบุคคล ได้เพิ่มอีกรวม 6 คน จากการสอบปากคำเด็กผู้หญิงทั้ง 6 คน ให้การตรงกันว่าถูกกลุ่มผู้กระทำผิดชักชวน ในลักษณะเดียวกัน และได้สืบสวนพบว่า มีผู้กระทำผิดในขบวนการเพิ่มอีก คือ นายปุณยวัจน์ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องการแบ่งเงินรายได้จากการถ่ายทอดสด และดีเจอีกคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เงินที่ได้จากการถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง จะแบ่งให้เด็กหญิงที่มาถ่ายทอดสดประมาณ 60% และส่วนที่เหลือจะนำมาแบ่งกันตามสัดส่วน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของท่านในการใช้สื่อ โซเชียลมีเดีย เนื่องจากปัจจุบันมีเยาวชนใช้งานสื่อจำนวนมาก อาจถูกผู้ไม่หวังดีล่อลวงไปกระทำในสิ่งไม่ดี และฝากความห่วงใยน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าไปถ่ายคลิปหรือภาพที่ไม่เหมาะสมบนโซเชียลมีเดีย อาจมีผู้ไม่หวังดีบันทึกภาพหรือคลิปไปเผยแพร่ต่อ ทำให้เกิดความอับอาย ถูกดูหมิ่นจากสังคม ขาดโอกาสทางการเรียนหรือการงานในอนาคต หรือส่งผลต่อสุขภาพจิตได้

จับ เอิร์ธ ออเงิน ควงปืนคาร์บินไล่ยิงรถนี่คือภาพเหตุการณ์ขณะที่ตำรวจ สน. คันนายาว และสืบสวนนครบาล 2 นำกำลังเข้าจับกุม นายชัยรัตน์ อายุ 31 ปี หรือ “เอิร์ธ ออเงิน” ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงข่มขู่ในวัดหนองใหญ่ ถนนสุขาภิบาล 5 แยก 94 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โดยไปจับกุมขณะหลบหนีกบดานอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลบึงคำพร้อม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา นายชัยรัตน์ได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนขับรถของพระในวัด และเป็นลูกจ้างร้านขายดอกไม้สด ขณะนำดอกไม้มาส่งเพื่อใช้ในการจัดงานศพที่วัด ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน หลังก่อเหตุนายชัยรัตน์ได้ขึ้นรถยนต์ของเพื่อน คือ นายรัตนพลพาขับหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับ ทั้ง 2 คน เอิร์ธ ออเงิน ให้การว่า ในวันเกิดเหตุมีอาการมึนเมา และได้เข้าไปไปคุยกับพระในวัด พอออกมาเจอผู้เสียหาย ก็คิดไปเองว่ามีคนตามจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนสาเหตุนั้นมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจพระใหม่รูปหนึ่งที่ติดเงินค่ากัญชา ซึ่งเคยมาทวงก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน แต่เจ้าตัวก็ยอมตอบคำถามสั้น ๆ กับสื่อมวลชน ระหว่างถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำ ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบว่า นายชัยรัตน์หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ โรงแรมในจังหวัดปทุมธานี จึงนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าจับกุม จากนั้นได้คุมตัวไปตรวจค้นเพิ่มเติม และได้ปืนคาร์บินของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการขยายผลติดตามตัวนายรัตนพล เพื่อนที่ขับรถพาหนีในวันเกิดเหตุ

ตำรวจจับยาเสพติดล็อตใหญ่เตรียมกระจายในกรุงเทพช่วงสงกรานต์ #ตำรวจ #ยาเสพติด #กรุงเทพ #สงกรานต์ #เทศกาล #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732118622467847 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

สมเด็จเจ้าคุณธงชัยเสด็จเจิมป้ายที่ใหม่ที่ สภ.ปากเกร็ด #พระ #ปากเกร็ด #ตำรวจ #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732119005801142 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

พระพยอมเผยจั๊กกระบุ๋มต้องใช้หนี้ให้หมดก่อนไม่งั้นกลายเป็นบวชอาชญากร บวชปล้นทรัพย์ #พระ #จั๊กบุ๋ม #หนี้นอกระบบ #บวชปล้นทรัพย์ #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732119302467779 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

จับหนุ่มใหญ่โลกสองใบ ฟันบ้านเล็กปางตาย หลังจับได้ไปคุยชายอื่น #ตำรวจ #ชู้ #ทำร้ายร่างกาย #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732145655798477 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

วุ้นเส้น-หนิง แถลงร่วม หลังจับผู้อ้างขายเซวา สร้างความเสียหายหลายล้าน #แถลง #ตำรวจ #วุ้นเส้น #หนิง #raiderreporter #ข่าว . อ่านข่าวในคอมเม้นต์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732146325798410 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

พี่สืบค้น..ทำเป็นไม่มองน๊าาา วินาที..รวบ 'โชคสามโคก' โจ๋วัยเก๋า ชอบพกปืนโชว์ชาวบ้าน มั่วสุมเสพยา ตรวจค้นห้องพบ ปืนนอริงโก้ กระสุน และอาวุธมีด . แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่” . การเผยแพร่นี้ เพื่อสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน .... [fb_vid id="1013007200541538"] ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732100902469619 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

ตำรวจไซเบอร์ จับ ตำรวจไซเบอร์ ผลิตปืนเถื่อนอัดลมแรงดันสูงขายออนไลน์ ดูเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/100070091468764/posts/732101112469598 เพจ Facebook : คนข่าวออนไลน์ Facebook : คนข่าวออนไลน์ https://www.facebook.com/Press005 LINE OpenChat : คนข่าวออนไลน์ https://line.me/ti/g2/qYsgZN4MCUZE-c7bp4529LgFybXVV9_iuFTHpA Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCY-hn1t6CEccKZMt38lfjMg

วุ้นเส้น-หนิง แถลงร่วม หลังจับผู้อ้างขายเซวา สร้างความเสียหายหลายล้านวันนี้ (4 เม.ย. 67) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง.ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤติน ตปสิโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 พร้อมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. ตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมทั้งสิ้น 4,491 ชิ้น มูลค่ากว่าล้านบาทสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค 67 น.ส.วิริฒิพา (วุ้นเส้น) ภักดีประสงค์ และ น.ส.ปณิตา (หนิง) พัฒนาหิรัญ ดารานักแสดง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท.1 กรณีมีเพจปลอมแอบอ้างนำวิดีโอไปตัดต่อ บิดเบือนข้อเท็จจริง ในการโฆษณาสินค้าและผลิตภัณฑ์ ซึ่งคือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง BROLAMEN และ อย.ได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชน อย่าใช้เซรั่มเถื่อน ดังกล่าว ซึ่งตรวจสอบไม่พบฉลากภาษาไทย และไม่พบการจดแจ้งในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่อมาจากการสืบสวนร้านค้าออนไลน์ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย (BROLAMEN) ทางสื่อออนไลน์ จนทราบว่าร้านค้าออนไลน์ (ขอสงวนชื่อ) มีพฤติการณ์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าวทางสื่อออนไลน์ จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงสมุทรปราการ เพื่อทำการตรวจค้น ณ สถานที่ซุกซ่อนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายของ ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายทางสื่อออนไลน์ ในวันที่ 2 เม.ย. 67 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นและกำลังเจ้าหน้าที่​ อย. ได้ร่วมกันทำการตรวจค้น ตามหมายค้นศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 14/2567 ลงวันที่ 1 เม.ย. 67 ณ คลังสหไทย เลขที่ 88/73 ม.32 ซ.ที่ดินไทย ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี​จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย (BROLAMEN) และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายชนิดอื่นอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำการยึดของกลางทั้งหมด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ (ขอสงวนชื่อ) และเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป โดยหากสืบพบเจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่แท้จริง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ.๒๕๕๘ ดังนี้ ฐาน "ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง" ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และฐาน "ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย" ระวางจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับภก.วีระชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) (สอท.1) ที่ร่วมกันตรวจค้นโกดัง จากการได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นดารากรณีถูกนำคลิปวีดีโอแนะนำเครื่องสำอางชื่อการค้า SEWA ไปตัดต่อภาพ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบแล้ว พบการฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แก่ เครื่องสำอาง ที่ฉลากไม่แสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งหรือแสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งและไม่แสดงฉลากเป็นภาษาไทย จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ล้วนต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อนผลิต นำเข้า และจำหน่าย ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว สำหรับยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่สามารถซื้อทางออนไลน์ได้ ต้องซื้อจากร้านยาหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น เว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้านพ.ต.อ.ปรีดา ได้ระบุว่า เบื้องต้น ยังไม่มีเจ้าของร้านค้าออนไลน์รายใดแสดงตนว่าเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งทำการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวของทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหา ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี และจะเร่งขยายผลทำการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าว ในรายอื่นๆ ต่อไปด้าน น.ส.ปณิตา ได้เปิดเผยว่า ในแต่ละขั้นตอนของการทำแบรนด์ มีความซับซ้อนและยากมากที่นำออกมาจำหน่าย ทางแบรนด์ขอ อย. ถึง 3 ครั้ง หากตนไม่ตามเรื่อง เรื่องนี้ก็จะหายเงียบไป ดังนั้นจึงต้องฝากทางผู้ใหญ่ให้ตรวจสอบ เพราะยังมียี่ห้อแบรนด์อื่นที่มีการนำเข้าผิดกฎหมายอีกเช่นกัน อยากให้ผู้กระทำผิดหยุดการกระทำดังกล่าว และหากแบรนด์ไหนประสบปัญหาเช่นเดียวกับแบรนด์ของตน อยากให้ออกมาร่วมมือกันเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไปด้าน น.ส.วิริฒิพา (วุ้นเส้น) ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้สินค้าปลอมที่อยู่ในตลาด ยังมีการใช้คลิปโฆษณาของแบรนด์ตน เพื่อโปรโมทสินค้าปลอม การทำธุรกิจกว่าจะได้การนำเข้าส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อแบรนด์ตนและแบรนด์อื่นๆ ในความโชคดีที่พวกเราเป็นบุคคลหน้าสื่อ เรื่องจึงไม่เงียบ ต่อไปนี้ก็จะตามเรื่องต่อไปจนถึงต้นตอ เพราะสร้างความเสียหายให้ตน รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์

CHANGE LANGUAGE
Powered by
คนข่าวออนไลน์ khonkhao.com
ตีแผ่ ทุกเรื่องราว เจาะลึกทุกความจริง ช่วยเหลือทุกพื้นที ด้วยทีมข่าวมืออาชีพ
บริการของเรา
รูปภาพของเรา
ที่ตั้งของเรา
บัญชีชำระเงิน

คนข่าวออนไลน์ khonkhao.com

ตีแผ่ ทุกเรื่องราว เจาะลึกทุกความจริง ช่วยเหลือทุกพื้นที ด้วยทีมข่าวมืออาชีพ

แชร์หน้านี้
โหลดหน้าใหม่
คัดลอกลิงก์